วัดตาราเทวี (Tara Devi Temple) คือหนึ่งในวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่นิยมสำหรับผู้เข้ามากราบไหว้ในเมืองโชกี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชิมลาประมาณ 13 กิโลเมตร และเนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีความสูง 2,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมาลัยได้จากทุกทิศทาง
วัดตาราเทวี ประเทศอินเดีย

ทำความรู้จักกับ รวมถึงประวัติความเป็นมา
ประวัติของ วัดตาราเทวี (Tara Devi Temple) เริ่มต้นเมื่อกษัตริย์ภูเพนตราเซนแห่งราชวงศ์เซนได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1766 หลังจากที่พระองค์ได้รับนิมิตจากพระแม่ตารา ซึ่งทรงประสงค์ให้มีการสร้างรูปจำลองขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสกราบไหว้และขอพรจากพระนาง กษัตริย์ภูเพนตราจึงมีคำสั่งให้ช่างฝีมือทำการแกะสลักพระแม่ตาราขึ้นมา
หลังจากนั้น กษัตริย์บัลบีร์เซนได้มีนิมิตเกี่ยวกับพระแม่ตาราอีกครั้ง โดยในครั้งนี้พระแม่ได้ขอให้พระองค์สร้างวัดบนยอดเขาตารัฟ (Tarav) พระองค์จึงได้สร้างวัดตาราเทวีขึ้นที่นี่ และยังได้มอบหมายให้มีการแกะสลักรูปเหมือนของพระแม่จากธาตุพิเศษ 8 ชนิด พร้อมตั้งชื่อพระนามว่า Shankar
ความน่าสนใจ
พระแม่ตารา
พระนางตาราเป็นพระโพธิสัตว์หญิงที่สำคัญในพระพุทธศาสนาแบบทิเบต โดยคำว่า “ตารา” มาจากภาษาสันสกฤต ซึ่งหมายถึง “การข้าม” การบูชาพระนางเริ่มต้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8 ถึง 11 ในภูมิภาคอินเดียเหนือ และได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 ถึง 17 โดยเชื่อว่าท่านเป็นชายาของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ในปัจจุบัน พระนางตารายังคงเป็นที่เคารพนับถือในทิเบต ขณะที่ในประเทศจีน ชาวพุทธจะนับถือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นภาคหญิงของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แทน

คาดว่าแนวคิดการบูชาพระนางตาราเริ่มต้นขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8 และได้กลายเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีผู้ศรัทธาแพร่หลายอย่างมากในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 13 ถึง 17 โดยเฉพาะในทิเบต เนปาล และมองโกเลีย เชื่อกันว่าแนวคิดการนับถือพระนางตาราเริ่มต้นในอินเดียเพื่อเป็นการต่อต้านพิธีกรรมสตี พระนางตาราได้รับการยกย่องว่าเป็นมารดาของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ในด้านความกรุณา ภาพลักษณ์ของพระนางมีส่วนหนึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระนางสิริมหามายาเทวี ผู้เป็นมารดาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

พระแม่ตาราถูกยกย่องว่าเป็นเทพแห่งสติปัญญาในลำดับที่ 2 จากทั้งหมด 10 ลำดับที่เรียกว่า มหาวิทยา ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งพลังงานที่ไร้ขอบเขต คำว่า ตารามาจากรากศัพท์สันสกฤต tr (ตริ) ที่หมายถึงการก้าวข้ามไปสู่สิ่งที่สูงกว่า พระแม่จึงเป็นสัญลักษณ์ของการนำทางผ่านการเวียนว่ายตายเกิดและความทุกข์ทรมานต่าง ๆ
ผู้คนจำนวนมากจึงเลือกบูชาพระแม่ตาราเพื่อขอพรให้สามารถผ่านพ้นอุปสรรคในชีวิตได้อย่างราบรื่น ช่วยแสดงทางสว่าง และให้การปกป้องคุ้มครองจากอันตรายทั้งหลายที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
สถาปัตยกรรมแบบกฐกูนี (Kath Kuni)
วัดดาราเทวีมีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบกฐกูนี (Kath Kuni) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหอสูงที่พบได้ทั่วไปในแถบหิมาจัลประเทศ คำว่า กฐกูนี มาจากภาษาสันสกฤต ซึ่งแปลว่า มุมไม้ สะท้อนถึงเทคนิคการก่อสร้างที่ใช้ไม้ประจำถิ่นอย่างสนดีโอดาร์ร่วมกับหิน โดยไม่ต้องพึ่งพาปูนในการเชื่อมต่อ

สถาปัตยกรรมแบบกฐกูนีมีความทนทานต่อแผ่นดินไหวมากกว่าคอนกรีตสมัยใหม่ เนื่องจากคุณสมบัติของหินที่ช่วยเสริมความหนักให้กับโครงสร้าง ทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง นอกจากนี้ การใช้ไม้เป็นส่วนประกอบในการยึดโครงสร้างเข้าด้วยกันอย่างยืดหยุ่นก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เด่นชัดของอาคารกฐกูนีก็คือการมีช่องประตูหน้าต่างขนาดเล็ก ซึ่งช่วยลดแรงกดจากช่องเปิดในกรณีเกิดแผ่นดินไหว และยังมีความหมายในแง่ของการออกแบบซุ้มประตูเล็ก ๆ เพื่อให้ผู้คนสามารถโค้งคำนับที่ทางเข้า เป็นการแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าที่ประจำบ้านอย่างเหมาะสม
ข้อมูล ของ วัดดาราเทวี (Tara Devi Temple) อินเดีย
- สถานที่ตั้ง : เมืองโชกี ประเทศอินเดีย
วัดตาราเทวี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของอินเดีย ที่น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ เพราะวัดอยู่บนภูเขาสูงทำให้มองเห็นวิวรอบๆ ได้อย่างถนัดชัดเจน แถมยังมีอากาศบริสุทธิ์ให้ได้สูดกันจนฉ่ำปอดอีกด้วยครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ