กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรีเต็มไปด้วยวัดสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆ หนึ่งในวัดที่น่าสนใจก็คือ วัดนางชีโชติการาม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง นอกจากนี้ยังมีศิลปะที่งดงามในสไตล์ไทย-จีน ที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน วันนี้เราขอเชิญชวนทุกคนไปสำรวจความงามที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งบอกเลยว่าไม่สามารถหาชมได้จากที่ไหนง่ายๆ แน่นอน

วัดนางชีโชติการาม

วัดนางชีโชติการาม หรือที่รู้จักกันในชื่อสั้นๆ ว่าวัดนางชีฯ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีแบบสามัญ ตั้งอยู่ในแขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ถือเป็นหนึ่งในวัดที่งดงามบริเวณฝั่งธนบุรีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แม้จะไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับปีที่สร้าง แต่เชื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง โดยมีเจ้าพระยาพิชิตชัยมนตรี พระยาฤๅชัยณรงค์ และออกหลวงเสนาสุนทรได้ร่วมกันก่อตั้งขึ้นครับ

วัดนางชีโชติการาม

ตามตำนานได้เล่าขานว่า แม่อิ่ม บุตรสาวของเจ้าพระยาพิชิตชัยมนตรี มีอาการเจ็บป่วยที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้และไม่สามารถรักษาให้หายได้ คืนหนึ่ง ชีปะขาวได้มาเข้าฝันเจ้าพระยาและบอกให้ทำการบนว่า หากลูกสาวหายดีแล้วจะให้บวชชี เมื่อแม่อิ่มได้หายจากอาการป่วยแล้ว เธอก็ได้บวชชีตามที่ได้บนไว้ พร้อมกับการสร้างวัดนี้ขึ้น เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณและความศรัทธา

วัดนางชีโชติการาม

รูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดนางชีโชติการามนั้น แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างศิลปะไทยและจีนอย่างชัดเจน ว่าตามประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ช่วงสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ วัดนี้ได้ถูกปล่อยทิ้งร้างนานหลายปี จนกระทั่งมาถึงรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี หรือ เถียน พ่อค้าชาวจีนที่เข้ามาทำการค้าขายและอาศัยอยู่ในสยาม ได้มีแรงศรัทธาและเกิดความต้องการที่จะบูรณะวัดนี้ขึ้นใหม่ โดยนำเอาศิลปะและสถาปัตยกรรมจีนเข้ามาใช้ ก่อนที่จะถวายให้เป็นพระอารามหลวง หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้พระราชทานพระนามให้กับวัดนี้ว่า วัดนางชีโชติการาม ซึ่งเป็นชื่อที่ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน

วัดนางชีโชติการาม

ในยุครัชกาลที่ 3 วัดนางชีโชติการามได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์อีกครั้งโดยพระยาราชานุชิต (จ๋อง) โดยในครั้งนี้มีการรื้อถอนทุกอย่างและสร้างใหม่ในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นที่นิยมในรัชกาลที่ 3 โดยมีลักษณะเด่นคือ หลังคาของพระอุโบสถที่ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หรือหางหงส์ พร้อมทั้งลวดลายบนหน้าบันที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบจากจีน นอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งลวดลายปูนปั้นที่ขอบหน้าต่างและประตู ในส่วนของซุ้มประตูนั้นมีรูปทรงโค้งแบบจีน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะไทยและจีนได้อย่างลงตัว และเป็นรูปแบบที่เรายังคงเห็นกันในปัจจุบันนี้ครับ

ในวันที่ 2 ค่ำ เดือน 12 หรือระหว่างวันที่ 12–14 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีการจัดงานชักพระที่วัดนางชี หรือที่รู้จักกันในชื่อ งานแห่พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของวัดนางชีโชติการาม โดยจะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุสาวกขึ้นประดิษฐานบนบุษบกในเรือ และแห่จากท่าน้ำหน้าวัดนางชีโชติการามไปตามคลองบากกอกน้อย คลองด่าน จนถึงวัดไก่เตี้ย

วัดนางชีโชติการาม

นอกจากนี้ ขบวนจะหยุดเพื่อขึ้นไปเลี้ยงพระเพลที่วัด ก่อนที่จะเดินทางกลับตามลำน้ำเจ้าพระยาไปยังวัดนางชีโชติการามตามเส้นทางเดิม งานนี้ถือเป็นประเพณีที่มีความเก่าแก่และสืบทอดกันมาช้านาน ซึ่งเป็นที่รู้จักและมีความสำคัญในวัฒนธรรมของชุมชนครับ

วัดนางชีโชตการาม ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดพลู โดยต้องขับเลยแยกวุฒากาศไปจนถึงสะพานข้ามคลองด่าน หลังจากลงสะพานแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร วัดก็จะอยู่ตรงนั้นครับ

การมาเยือนวัดและทำบุญที่วัดนางชีโชติการาม ในเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เป็นประสบการณ์ที่ดีต่อใจอย่างยิ่ง ผมได้มีโอกาสไหว้พระและอิ่มบุญ พร้อมทั้งถ่ายภาพสวย ๆ ที่นี่ ทำให้รู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติและเรื่องราวที่น่าสนใจของวัดนี้ ซึ่งมีเรื่องเล่าที่ดีมากมาย การเดินทางมาที่นี่จึงไม่เพียงแต่เติมพลังบุญให้กับตัวเอง แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้สู้ต่อไปในชีวิตครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ