วัดโพธิ์ชัย – ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในหนองคาย ต้องมีสถานที่ที่น่าสนใจที่เราจะพาทุกคนไปสำรวจวันนี้อย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นวัดที่มีชื่อเสียงซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อพระใสที่โด่งดัง เป็นสถานที่ที่ได้รับความเคารพนับถือจากชาวหนองคายอย่างมาก และวัดที่เรากำลังพูดถึงก็คือ วัดโพธิชัย นั่นเองค่ะ

วัดโพธิ์ชัย

วัดที่สำคัญและเป็นที่รู้จักของจังหวัดหนองคายที่ไม่สามารถมองข้ามได้คือ วัดโพธิชัย ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปที่มีความสำคัญคู่กับเมืองหนองคาย พระพุทธรูปนี้อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย สร้างขึ้นในสมัยล้านช้าง โดยหล่อด้วยทองสีสุก มีหน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปที่นักท่องเที่ยวและประชาชนต่างมาไหว้ขอพรอยู่เสมอครับ

วัดโพธิ์ชัย

เมื่อก้าวเข้าสู่วิหารหลวงพ่อพระใส เราจะได้พบกับความงดงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยสดงดงาม โดยจุดศูนย์กลางของวิหารคือที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระใส นอกจากนี้ยังมีตำนานที่เล่าขานกันว่าในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการนำพระเสริม พระสุก และพระใส จากนครเวียงจันทร์ ลงเรือข้ามมายังหนองคาย แต่ปรากฏว่า พระสุกกลับจมน้ำหายไปอย่างน่าเสียดาย

วัดโพธิ์ชัย

ซึ่งต่อมาในรัชกาลที่ 4 ได้มีการอัญเชิญพระเสริมและพระใสขึ้นเกวียนไปยังพระนคร แต่ในขณะที่เกวียนที่บรรทุกพระใสเกิดหักที่บริเวณวัดโพธิ์ชัย ทำให้สถานที่ดังกล่าวกลายเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระใสมาจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ

นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี จะมีการจัดงานสมโภชและขบวนแห่หลวงพ่อเพื่อให้ชาวหนองคายได้สรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคลกันอีกด้วย ถือว่าเป็นประเพณีสำคัญประจำจังหวัดเลยทีเดียวค่ะ

วัดที่สำคัญในจังหวัดหนองคาย มีตำนานที่เล่าว่า พระธิดาทั้ง 3 พระองค์ของกษัตริย์ล้านช้าง ได้ทำการหล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และได้ถวายชื่อพระพุทธรูปตามนามของแต่ละพระองค์ โดยมี “พระเสริม” เป็นพระประจำพระธิดาองค์ใหญ่, “พระสุก” สำหรับพระธิดาองค์กลาง และ “พระใส” สำหรับพระธิดาองค์เล็ก

วัดโพธิ์ชัย

แต่เดิมพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ถูกประดิษฐานที่นครเวียงจันทน์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๓ ได้ทำการอัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์โดยการลงเรือข้ามแม่น้ำโขงมายังเมืองหนองคาย แต่เกิดพายุแรงจนทำให้ “พระสุก” ตกน้ำและจมหายไป ในขณะที่ “พระเสริม” และ “พระใส” ได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย

ต่อมาช่วงรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำริให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น (ข้าหลวง) ทำการอัญเชิญ “พระเสริม” จากวัดโพธิ์ชัยในจังหวัดหนองคายมายังกรุงเทพฯ รวมถึงการอัญเชิญ “พระใส” จากวัดหอก่องเพื่อจะนำไปลงกรุงเทพฯ ด้วยเกวียน แต่เมื่อถึงวัดโพธิ์ชัย หลวงพ่อพระใสแสดงปาฏิหาริย์จนทำให้เกวียนหัก จึงไม่สามารถอัญเชิญลงได้ โดยมีเพียงพระเสริมที่ถูกนำลงกรุงเทพฯ และประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสยังคงประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองคาย และได้อยู่ที่นั่นมาจนถึงปัจจุบัน

วัดโพธิ์ชัย

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี ชาวนครหนองคายจะจัดงานประเพณีบุญสงกรานต์ พร้อมทั้งมีพิธีอัญเชิญ “หลวงพ่อพระใส” ซึ่งจะมีการนำหลวงพ่อพระใสลงจากพระอุโบสถเพื่อนำไปแห่รอบบริเวณพระอุโบสถ จากนั้นจะอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนราชรถ ขบวนหลวงพ่อพระใสและพระบริวารทั้งหมดจะออกแห่รอบเมืองเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมรดน้ำสรงเพื่อความเป็นสิริมงคล

สมกับที่เป็นวัดชื่อดังในหนองคาย เพราะมีทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และประเพณีใหญ่ที่จัดขึ้นประจำปีเพื่อเสริมสิริมงคลแบบนี้ ชาวหนองคายและผู้คนในพื้นที่ใกล้เคียงต่างก็เดินทางมากราบไหว้และขอพรกันอย่างเนืองแน่น หากเราได้มีโอกาสไปเที่ยวหนองคาย ก็อย่าลืมแวะไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลกันนะคะ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ