
ทุกๆ ปีในช่วงหน้าร้อน จังหวัดกาฬสินธุ์ หนึ่งในจังหวัดที่งดงามแห่งภาคอีสาน จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีการจัด ประเพณีทรงน้ำพระธาตุยาคู อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งถือเป็นงานประจำปีที่ทั้งชาวกาฬสินธุ์และนักท่องเที่ยวรอคอย พระธาตุยาคู เป็นเจดีย์เก่าแก่โบราณที่สะท้อนอารยธรรมขอมในอดีต โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง วันนี้ หวยสด จะพาทุกคนไปรู้จักกับพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองแห่งนี้กันให้มากขึ้น
พระธาตุยาคู จังหวัดกาฬสินธุ์

ทำความรู้จักกับสถานที่
พระธาตุยาคู หรือที่ชาวบ้านเรียกกันในอดีตว่า “พระธาตุใหญ่” เป็นพระสถูปเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัย ทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 13–15 เดิมทีองค์เจดีย์มีสภาพทรุดโทรมและหักพังไปตามกาลเวลา เนื่องจากขาดการบูรณะรักษา
ต่อมาในสมัย กรุงศรีอยุธยา ได้มีการก่อสร้างเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมขึ้นใหม่ โดยก่ออิฐถือปูนซ้อนทับบนฐานเดิม เพื่อสืบสานความศรัทธาและรักษารูปแบบของเจดีย์ไว้ จากนั้นในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ ก็ได้มีการต่อเติมส่วนยอดให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้พระธาตุมีความสง่างามและคงอยู่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง
จนกระทั่งระหว่างปี พ.ศ. 2510–2522 กรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการขุดแต่งและบูรณะองค์พระธาตุยาคูอย่างจริงจัง พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนให้เป็น โบราณสถานของชาติ เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและสักการะ

ความน่าสนใจ
พระธาตุยาคู ตั้งอยู่ที่ บ้านเสมา ตำบลหนองแปง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ในบริเวณที่รู้จักกันในชื่อ “เมืองฟ้าแดดสงยาง” หรือที่ชาวบ้านบางพื้นที่เรียกเพี้ยนว่า “ฟ้าแดดสูงยาง” และบางแห่งก็เรียกว่า “เมืองเสมา” ชื่อเมืองนี้มีที่มาจากลักษณะผังเมืองโบราณที่มีรูปร่างคล้าย “ใบเสมา” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาในพุทธศาสนา
เมืองฟ้าแดดสงยางถือเป็น เมืองโบราณสำคัญในยุคทวารวดี มีคันดินล้อมรอบถึงสองชั้น โดยมีคูน้ำคั่นอยู่ตรงกลาง คันดินโดยรอบมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและความสำคัญของเมืองในอดีต ทั้งในด้านศาสนา การปกครอง และวัฒนธรรมของชุมชนอีสานยุคโบราณ
จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ ทำให้ทราบว่า ภายในพื้นที่เมืองฟ้าแดดสงยางมีการอยู่อาศัยมาตั้งแต่ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และได้เจริญรุ่งเรืองสูงสุดในช่วง สมัยทวารวดี หลักฐานสำคัญที่ยืนยันถึงความรุ่งเรืองทางศาสนาและศิลปวัฒนธรรมของผู้คนในยุคนั้น ได้แก่ ใบเสมาหินทรายจำหลักภาพชาดกและพุทธประวัติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง
โบราณวัตถุเหล่านี้ได้ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญหลายแห่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและภาคภูมิใจในรากเหง้าวัฒนธรรมของตนเอง นอกจากนี้ ภายในเมืองยังพบ ซากศาสนสถานโบราณ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “พระธาตุยาคู” เจดีย์เก่าแก่ที่โดดเด่นและยังคงตั้งตระหง่านเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองมาจนถึงทุกวันนี้

ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระธาตุยาคู
พระธาตุยาคูถือเป็น เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟ้าแดดสงยาง และยังเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวกาฬสินธุ์มาอย่างยาวนาน ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของพระธาตุองค์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการก่อสร้างและการบูรณะใน สามสมัยสำคัญ คือ สมัยทวารวดี สมัยอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์
- 🔹 สมัยทวารวดี — ส่วนฐานของพระธาตุเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ทิศ ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นอันวิจิตร ถือเป็นฐานดั้งเดิมขององค์เจดีย์
- 🔹 สมัยอยุธยา — ได้มีการสร้างฐานรูปแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ซ้อนทับบนฐานเดิม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเจดีย์ในยุคนั้น สะท้อนถึงความต่อเนื่องทางศิลปะและศรัทธา
- 🔹 สมัยรัตนโกสินทร์ — ได้มีการก่อสร้างส่วนองค์ระฆังและยอดเจดีย์เพิ่มเติมขึ้น เพื่อให้พระธาตุมีความสูงสง่าและสมบูรณ์ตามคตินิยมของสมัยนั้น
การก่อสร้างและบูรณะในแต่ละยุคทำให้พระธาตุยาคูเป็นเจดีย์ที่รวมเอกลักษณ์ของศิลปกรรมไทยในแต่ละยุคสมัยไว้ได้อย่างกลมกลืนและทรงคุณค่า เป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนความต่อเนื่องของความศรัทธาในพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน

ความเชื่อและสิ่งล้ำค่ารอบองค์พระธาตุยาคู
พระธาตุยาคูสร้างซ้อนกันเป็นแบบ จตุรมุข มีความสูงจากฐานถึงยอดประมาณ 8 เมตร รอบๆ องค์พระธาตุสามารถพบเห็น ใบเสมาหินทรายจำหลักภาพนูนต่ำ เล่าพุทธประวัติอย่างงดงาม แสดงถึงฝีมือช่างโบราณและศรัทธาอันแรงกล้าของผู้คนในอดีต
ชาวบ้านในพื้นที่มีความเชื่อว่า ภายในองค์พระธาตุยาคู น่าจะบรรจุ อัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ ผู้เป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองในยุคนั้น สะท้อนให้เห็นว่าพระธาตุแห่งนี้ไม่เพียงเป็นศาสนสถานสำคัญ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาและความคุ้มครองของเมืองฟ้าแดดสงยาง
มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า เมื่อครั้งที่เมืองเชียงโสมยกทัพมารุกรานและทำลายสิ่งปลูกสร้างภายในเมืองฟ้าแดดสงยางจนพังราบ แต่ พระธาตุยาคูกลับไม่ได้รับความเสียหาย ยังคงตั้งตระหง่านอยู่จนถึงปัจจุบัน ทำให้ชาวบ้านยิ่งเลื่อมใสศรัทธา เชื่อว่าองค์พระธาตุได้รับการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่สถิตของพลังแห่งความดีงาม

ประเพณีสรงน้ำพระธาตุยาคู
อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่แสดงถึงความศรัทธาและความสามัคคีของชาวเมืองฟ้าแดดสงยาง ก็คือ ประเพณีสรงน้ำพระธาตุยาคู ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน พฤษภาคม ภายในงานจะมี ขบวนแห่และการรำบูชาโดยนางรำกว่าพันคน ที่แต่งกายด้วยผ้าไหมพื้นเมืองอันงดงาม เคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงไปตามจังหวะดนตรีพื้นบ้าน
นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังถูกประดับตกแต่งด้วย ทะเลธุงกว่า 1,600 ต้น สีสันสดใสโบกสะบัดรับลม เป็นภาพที่ทั้งงดงามและเต็มไปด้วยพลังศรัทธา จนกลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างตั้งตารอมาเยือน
ประเพณีสรงน้ำพระธาตุยาคูจึงไม่เพียงเป็นพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการสืบทอดภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นอันทรงคุณค่าที่ชาวกาฬสินธุ์ภาคภูมิใจและร่วมกันอนุรักษ์ไว้จากรุ่นสู่รุ่น
ข้อมูล ของ พระธาตุยาคู กาฬสินธุ์
- สถานที่ตั้ง : ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.30 น.
ภายในงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุยาคู ที่เที่ยวกาฬสินธุ์ ยังมีกิจกรรมมากมายที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของชาวอีสานและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น การจัดนิทรรศการเฮือนอีสาน จากทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่นำเสนอวิถีชีวิต เครื่องมือพื้นบ้าน และภูมิปัญญาท้องถิ่นอันทรงคุณค่า บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความคึกคัก งดงาม และอบอวลไปด้วยพลังแห่งศรัทธา ไม่ว่าคุณจะเป็นชาวกาฬสินธุ์หรือผู้มาเยือนจากแดนไกล ก็จะต้องรู้สึก ประทับใจในมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอีสาน และอบอุ่นใจไปกับความร่วมแรงร่วมใจของผู้คนที่ตั้งใจสืบสานประเพณีอันงดงามนี้ให้คงอยู่ต่อไป สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ
