
วัดแก้กรรม การไหว้พระทำบุญเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของคนไทย เมื่อมีเวลาว่าง หลายคนมักเดินทางไปกราบสักการะตามวัดต่าง ๆ เพื่อขอพร เสริมโชคลาภ และเพิ่มสิริมงคลให้กับชีวิต แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้ทำอะไรก็ไม่ค่อยราบรื่น เจออุปสรรคอยู่บ่อย ๆ วันนี้ หวยสด มี พิกัดวัดดังสำหรับไหว้พระ แก้ดวงตก ล้างอาถรรพ์ และปัดเป่าสิ่งไม่ดี มาฝากกันครับ แต่ละสถานที่ล้วนขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อกันว่าสามารถช่วยเสริมดวง หนุนบารมี ให้ชีวิตกลับมารุ่งเรืองสดใสอีกครั้งได้ (ทั้งนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ) จะมีวัดไหนบ้างที่ควรไปปักหมุด ขอพรให้ปังกันบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ!
เปิดพิกัด 5 วัดแก้กรรม

1. วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
วัดอรุณราชวราราม หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า “วัดอรุณฯ” เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บนถนนอรุณอมรินทร์ เดิมมีชื่อว่า “วัดมะกอก” ต่อมาในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งทรงกรีธาทัพทางชลมารคเพื่อย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้ง ณ กรุงธนบุรี ได้เสด็จมาถึงบริเวณหน้าวัดในยามรุ่งสาง จึงมีพระราชดำริเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกเป็น “วัดแจ้ง”
ภายหลังเมื่อทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี ได้โปรดเกล้าฯ ให้กำหนดวัดแจ้งเป็นวัดในเขตพระราชฐาน และสถาปนาเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ จนถือเป็นวัดประจำรัชกาล เมื่อการบูรณะแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม” และในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการก่อสร้างพระปรางค์องค์ใหญ่สูงถึง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร ซึ่งแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 4 พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดอรุณราชวราราม” อย่างที่เราเรียกกันในปัจจุบัน
วัดอรุณฯ นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเทพมหานครแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าการได้มากราบไหว้จะช่วยเสริมสิริมงคล ปัดเป่าสิ่งไม่ดี และช่วยให้ชีวิตรุ่งเรืองดั่งแสงอรุณนั่นเองครับ
ภายในวัดอรุณราชวราราม ยังมีจุดศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะกันอย่างมาก คือ “โบสถ์น้อย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ภายในประดิษฐาน พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ พระแท่นไม้สักทอง ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2310
หนึ่งในพิธีกรรมยอดนิยมของผู้ศรัทธาคือ “การลอดพระแท่นพระเจ้ากรุงธนบุรี” เพราะมีความเชื่อว่า การลอดใต้พระแท่นแห่งนี้จะช่วย ล้างอาถรรพ์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี เสริมดวง หนุนบารมี และนำพาโชคลาภเข้ามาในชีวิต เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มาลอดพระแท่นจะพบกับความร่มเย็นเป็นสุข และมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาไม่ขาดสาย
- เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 18.00 น.

2. วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “วัดสุทัศน์” เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็น 1 ใน 6 วัดที่ได้รับการยกย่องให้เป็นพระอารามหลวงชั้นสูงสุดของประเทศไทย วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหันออกสู่ถนนอุณากรรณ ส่วนด้านหลังติดกับถนนบำรุงเมือง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ เสาชิงช้า หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ และเทวสถานพราหมณ์ที่มีชื่อเสียง
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่สำคัญภายในวัดสุทัศนเทพวราราม ที่ผู้คนให้ความเคารพศรัทธาและนิยมมากราบไหว้ คือ “พระพุทธเสฏฐมุนี” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อกลักฝิ่น” พระประธานที่ประดิษฐานอยู่ภายในศาลาการเปรียญ ด้านหน้าพระอุโบสถ
พระพุทธรูปนี้มีเรื่องราวที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง ย้อนไปในสมัยรัชกาลที่ 3 ในช่วงที่มีการปราบปรามการค้าเสพติดฝิ่นในปี พ.ศ. 2382 พระองค์ได้มีพระราชดำริให้นำกลักฝิ่นที่ทำจากทองแดงและทองเหลืองมาหลอมรวมกันจนกลายเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 1 วา 1 ศอก 1 คืบ
ต่อมาใน รัชกาลที่ 4 ได้พระราชทานนามว่า “พระพุทธเสฏฐมุนี” ซึ่งหมายถึง “พระผู้ประเสริฐสุด” หรือ “ผู้ที่เคยหลงผิดแต่สามารถกลับใจเป็นคนดีได้เสมอ” เปรียบดังแสงแห่งปัญญาที่ส่องนำให้จิตใจหลุดพ้นจากสิ่งมัวหมองและความมืดมน
ชาวพุทธเชื่อกันว่า หากได้มากราบสักการะ หลวงพ่อกลักฝิ่น พร้อมทำพิธี ขอขมากรรม ถอนคำอธิษฐาน หรือคำสัญญาที่เคยล่วงเกิน จะช่วยให้ชีวิตคลี่คลายจากสิ่งติดขัด ล้างอาถรรพ์ทางใจ และเปิดทางให้สิ่งดี ๆ เข้ามา ถือเป็นการเสริมบารมีและชำระจิตใจให้ผ่องใสอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็น พระพุทธรูปกลักฝิ่นองค์เดียวในโลก ที่ทรงคุณค่าและมีความหมายลึกซึ้งยิ่ง
- เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น.

3. วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร
วัดอินทรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่บนถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม ตรงข้ามธนาคารแห่งประเทศไทย และไม่ไกลจากสะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร ปัจจุบันเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2295 เดิมมีชื่อว่า “วัดไร่พริก” เนื่องจากบริเวณโดยรอบเคยเป็นสวนผักของชาวจีน ต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 1 เมื่อครั้งเสด็จยกทัพไปปราบกบฏที่กรุงเวียงจันทน์ และได้อัญเชิญเชื้อพระวงศ์ลาวมายังบางขุนพรหม จึงเรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่า “บ้านลาว”
หนึ่งในผู้ติดตามมาคือ เจ้าอินทวงศ์ ผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า จึงได้บูรณะวัดไร่พริกขึ้นใหม่ และตั้งชื่อว่า “วัดอินทาราม” เพื่อเป็นสิริมงคล ต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอินทรวิหาร” ซึ่งใช้สืบมาจนถึงปัจจุบัน
ภายในวัดอินทรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานของ “พระศรีอริยเมตไตรย” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางแจ้ง ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของย่านบางขุนพรหม
หลวงพ่อโตเริ่มสร้างขึ้นโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมื่อปี พ.ศ. 2410 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2467 องค์พระมีความสูงถึง 16 วา กว้าง 5 วา 2 ศอก ทั้งองค์ประดับด้วย กระเบื้องโมเสกทองคำ 24 เค อย่างวิจิตรงดงาม
ที่บริเวณ ยอดเกตุมาลา ยังบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ทำให้หลวงพ่อโตแห่งวัดอินทรวิหารได้รับความเคารพศรัทธาอย่างสูงในฐานะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตาและความสงบเย็น
ชาวพุทธเชื่อกันว่า การได้มากราบสักการะ หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร จะช่วย เสริมดวงชะตา หนุนบารมี ล้างเคราะห์ร้าย และดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะในช่วงที่รู้สึกเหนื่อยหรือชีวิตติดขัด เชื่อกันว่าพลังแห่งเมตตาขององค์พระจะช่วยปลอบประโลมและเปิดทางให้ชีวิตกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
- เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 21.30 น.

4. วัดนาคปรก กรุงเทพมหานคร
วัดโคนอนราชวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนถนนเทอดไท เขตภาษีเจริญ ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หรือก่อนการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2
ภายหลังเมื่อเกิดภาวะสงคราม ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัย ทำให้วัดถูกปล่อยทิ้งร้างอยู่นาน จนกระทั่งในสมัย รัชกาลที่ 3 ได้มี “เจ้าสัวพุก” หรือ พระบริบูรณ์ธนากร พ่อค้าคหบดีเชื้อสายจีน (ต้นตระกูลโชติกะพุกกณะ) เข้ามาบูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่
เริ่มแรกได้ทำการบูรณะ อุโบสถ ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยรูปทรงโค้งแอ่นคล้าย ท้องเรือสำเภาจีน ภายในตกแต่งด้วย ภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบจีน จัดเป็นช่อง ๆ แสดงเครื่องมงคลตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายมหายาน
ภายในอุโบสถประดิษฐาน “หลวงพ่อเจ้าสัว” พระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งมีพุทธลักษณะงดงามและทรงพลัง ส่วนภายในวิหารมี “หลวงพ่อนาคปรก” พระพุทธรูปสัมฤทธิ์อีกองค์หนึ่งที่มีพญานาคแผ่พังพานเหนือพระเศียร อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการคุ้มครอง ปัดเป่าภัยอันตราย และหนุนดวงชะตาให้มั่นคง
ชาวพุทธเชื่อว่า การได้มากราบสักการะหลวงพ่อเจ้าสัวและหลวงพ่อนาคปรก ณ วัดโคนอนราชวรวิหาร จะช่วย เสริมดวงให้มั่งคั่งร่ำรวย ปัดเป่าสิ่งอัปมงคล และล้างอาถรรพ์ที่เกาะติด พร้อมเปิดทางให้ชีวิตรุ่งเรือง เหมือนชื่อ “เจ้าสัว” ที่หมายถึงความมั่งมีศรีสุขนั่นเองครับ
- เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 21.30 น.

5. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ห่างจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศเพียง 300 เมตร เป็นที่ประดิษฐานของ “พระบรมบรรพต” หรือที่รู้จักกันในนาม “ภูเขาทอง” พุทธสถานสูงสง่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ มีความสูงจากฐานจนถึงยอดพระเจดีย์ราว 77 เมตร
ภูเขาทองแห่งนี้ยังได้รับการกำหนดให้เป็น “สะดือประเทศ” หรือจุดศูนย์กลางของเมือง ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมักมาขอพรด้านโชคลาภและความรุ่งเรือง โดยเฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดิน มีความเชื่อกันว่า หากได้มาขอพรที่นี่จะช่วยให้การซื้อขายที่ดินราบรื่นและประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าดวงชะตาไม่ค่อยราบรื่น แนะนำให้มากราบ “พระพุทธมงคลบรมบรรพต” หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงพ่อดวงดี” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ภายใน ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ ทางด้านประตูสะพานร้องไห้ ภายในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
หลวงพ่อดวงดีเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ (ปางตรัสรู้) ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ หล่อขึ้นจากแผ่น “ดวงมหาโภคทรัพย์” ที่บรรจุอยู่บนยอดพระบรมบรรพต โดยมีพระเกตุหล่อด้วยทองคำและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน ตามความเชื่อกล่าวว่า หากได้มากราบสักการะ จะช่วยหนุนดวงชะตาให้ดีขึ้น ขจัดเคราะห์ภัย เสริมโชคลาภ และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตนเองและครอบครัว
- เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 18.00 น.
นี่เป็นเพียงตัวอย่าง วัดแก้กรรม สถานที่ไหว้พระเพียงบางแห่ง เท่านั้น ยังมีวัดและศาสนสถานอีกมากมายที่น่าสนใจให้ไปสักการะ หากเพื่อน ๆ มีพิกัดวัดดี ๆ ก็สามารถ แชร์กันเข้ามาได้ แต่ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ทั้งหมดเป็น ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการเลือกปฏิบัติด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ
